การตกแต่งระเบียงไม้ (terrace) โดยทั่วไปแล้วจะมีวัสดุที่นิยมใช้คือ กระเบื้อง ,แผ่นหิน ,ไม้เทียม และไม้จริง วัสดุต่างๆเหล่านี้ต่างก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป เช่น แผ่นหินจริง ราคาจะสูงเมื่อเทียบกับกระเบื้อง แต่จะสวยงาม และมีความหรูหรา luxuly ส่วนการเลือกใช้พื้นไม้จริงมาติดตั้งนั้นผู้ติดตั้งต้องคำนึงถึงการออกแบบให้เข้ากับโครงสร้างของบ้าน และชนิดของไม้ที่นำมาติดตั้ง
การเลือกใช้ไม้จริงสำหรับส่วนของระเบียงไม้
โดยปกติแล้วระเบียงไม้มักจะอยู่นอกบ้าน ซึ่งบางส่วนอาจจะโดนฝน และแดด แต่บางจุดอาจจะอยู่ในร่ม ไม้ที่นำมาติดตั้งควรจะเป็นไม้เนื้อแข็ง (ผู้เขียนเคยเจอเจ้าของบ้านที่ใช้ไม้เนื้ออ่อนปูระเบียงบ้าน ปรากฏว่า3-4ปีก็ผุจนต้องเปลี่ยนใหม่ ถึงแม้คนขายจะโฆษณาว่าไม้อัดน้ำยามาแล้ว)เช่นไม้เต็งลาว(สีจะออกเหลืองนวลๆ) หรือไม้แดง(ออกสีแดง ใช้เล็บจิกแทบจะไม่เข้า) ส่วนไม้เนื้อแข็งอื่นๆ เช่นเรดโอ๊ค ผู้เขียนไม่เคยใช้จึงไม่สามารถบอกได้
ไม้ที่นิยมนำมาทำระเบียงไม้
โดยส่วนใหญ่แล้วการเลือกพื้นไม้มาทำระเบียงบ้านภายนอกจะนิยมใช้ไม้อยู่สองชนิดคือ
ไม้เต็ง
ไม้เต็งเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลำต้นขนาดตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงใหญ่ หาได้ง่าย ค่าความถ่วงจำเพาะที่ 1.07 ยกแล้วจะหนัก ไม้เต็งจะมีหลายสายพันธ์ เช่น ไม้เต็งลาว ไม้เต็งซา ไม้เต็งอินโด ไม้เต็งแดง การเลือกใช้ผู้เขียนแนะนำใช้ไม้เต็งลาว จะค่อนข้างทนกว่า และควรเลือกไม้ที่ผ่านการอบมาแล้ว เพราะเมื่อติดตั้งไปแล้วแทบจะไม่เกิดการหดตัว หรือบิด เหมือนไม้ใหม่
ไม้แดง
ไม้แดงเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ มีความสูงของต้นได้ถึง 25 เมตร โดยมีความถ่วงจำเพาะประมาณ 1.18 และเนื้อไม้มีความแข็งประมาณ 1,030 กิโลกรัม แข็งมาก เนื้อสีแดงอมส้ม โดยส่วนใหญ่จะนำเข้าจาก ลาว และพม่า ส่วนไม้แดงมาเลย์ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าปลูกแถวไหน แต่รู้ว่าไม้ชนิดนี้มีความทนทานน้อยกว่า ไม้แดงจากลาว หรือพม่า
การไม้นำมาทำพื้นไม้แดงควรเลือกใช้ไม้แบบอบ และการปูพื้นควรจะปูพื้นเว้นร่อง เพราะไม้แดงมีการยืด และหดตัวสูง ถ้าปูชิดกันเมื่อโดนฝนไม้จะขยายตัว ทำให้ระเบียงส่วนนั้นเสียหายได้
การดูแลรักษาพื้นระเบียงไม้
พื้นระเบียงไม้ถ้าอยู่ด้านนอกของตัวบ้านมักจะโดดแดด และฝน เมื่อใช้ไปนานๆมักจะสีซีด หากเราต้องการใช้งานให้ยาวนานควรมีการปกป้องพื้นไม้ เช่น ทาสีซ้ำๆ ทุก3-4ปี เพื่อจะได้ใช้ระเบียงไม้ได้ยายนานมากขึ้น
สรุปการเลือกใช้ไม้จริงทำระเบียงไม้
1.ควรเลือกไม้เนื้อแข็ง
2.ไม้ควรแห้ง หรืออบมาก่อน
3.การเลือกไม้ควรพาผู้มีประสบการณ์ไปด้วย เพราะอาจจะโดนหลอกได้ หรือเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ